เมนู

พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ แม้ปาฏิหาริย์นี้
ปรากฏแก่ข้าพระองค์เหมือนเล่นกล หมายเอาความที่ปาฏิหาริย์คล้ายกับวิชชา-
จินดามณีมนต์. เพราะผู้ที่รู้วิชชาจินดามณีมนต์นี้ เห็นคนกำลังเดินมานั่นแหละ
ย่อมรู้ว่า คนผู้นี้เดินตรึกเรื่องนี้มา อนึ่ง ย่อมรู้ว่า คนผู้นี้ยืนตรึกเรื่องชื่อนี้
นั่งตรึกเรื่องชื่อนี้ นอนตรึกเรื่องชื่อนี้ ดังนี้.
บทว่า อภิกฺกนฺตตรํ ได้แก่ดีกว่า. บทว่า ปณีตตรํ ได้แก่สูงกว่า.
ในบทว่า ภวญฺหิ โคตโม อวิตกฺกํ อวิจารํ นี้ พราหมณ์มิได้ถือเอา
อาเทสนาปาฏิหาริย์ที่เหลือว่า เป็นลัทธิภายนอก (พระพุทธศาสนา) ก็แล
พราหมณ์นั้น เมื่อจะกล่าวสรรเสริญพระตถาคต จึงกล่าวข้อความนี้ทั้งหมด.
บทว่า อทฺธา โข ตฺยาหํ ความว่า วาจานี้ ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว
โดยส่วนเดียวแท้. บทว่า อาสชฺช อุปนิยฺย วาจา ภาสิตา ความว่า
วาจาที่ท่านกล่าวพาดพิงถึงเรา ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว. บทว่า อปิจ ตฺยาหํ
พฺยากริสฺสามิ
ความว่า อีกทั้งเราแหละจักพยากรณ์แก่ท่าน. บทที่เหลือมี
เนื้อความตื้นทั้งนั้น ฉะนี้แล.
จบอรรถกถาสังคารวรสูตรที่ 10
จบพราหมณวรรควรรณนาที่ 1

รวมพระสูตรที่มีในพราหมวรรคนี้ คือ


1. ปฐมชนสูตร 2. ทุติยชนสูตร 3. พราหมณสูตร 4. ปริพาชกสูตร
5. นิพพุตสูตร 6. ปโลภสูตร 7. ชัปปสูตร 8. ติกัณณสูตร 9. ชา-
นุสโสณีสูตร 10. สังคารวสูตร และอรรถกถา.

มหาวรรคที่ 2



1. ติตถสูตร



ว่าด้วยอกิริยาทิฏฐิ - ลัทธิเดียรถีย์ 3 อย่าง



[501] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลัทธิของเดียรถีย์3นี้ ซึ่งบัณฑิตทั้งหลาย
ซักไซ้ไล่เลียงสืบไป (เท่าไร ๆ) ก็คงยืนตัวอยู่ใน หลักอกิริยา ลัทธิของ
เดียรถีย์ 3 คืออะไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะอย่างนี้
มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลได้รับสุขหรือทุกข์ หรือไม่ทุกข์ไม่สุข อย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้รับ เพราะกรรมที่ทำไว้ในปางก่อนทั้งสิ้นเป็นเหตุ
สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคล
ได้รับ สุขหรือทุกข์หรือไม่ทุกข์ไม่สุขอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะพระผู้เป็นเจ้า
(พระอิศวร) สร้างสรรค์ให้ทั้งสิ้นเป็นเหตุ
สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า ได้รับสุข
หรือทุกข์หรือไม่ทุกข์ไม่สุขอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่มีเหตุไม่มีปัจจัยทั้งสิ้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในสมณพราหมณ์ 3 พวกนั้น พวกที่มีวาทะ
อย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลได้รับสุขหรือทุกข์หรือไม่ทุกข์ไม่สุข อย่างใด
อย่างหนึ่ง ได้รับเพราะกรรมที่ทำไว้ในปางก่อนทั้งสิ้น เราเข้าไปถามสมณ-
พราหมณ์พวกนั้นอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย ได้ยินว่า ท่านทั้งหลายมีวาทะอย่างนี้
มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลได้รับสุข ฯลฯ ได้รับเพราะกรรมที่ทำไว้ ในปางก่อน
ทั้งสิ้น จริงหรือ เราถามอย่างนี้แล้ว หากเขายังยืนยันอยู่ เราก็กล่าวกะเขาว่า